(22 เมษายน 2567) ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดของเกาะอังกฤษ “เอฟเอ.คัพ อังกฤษ”ฤดูกาล 2023-24 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ที่สนาม เวมบลีย์ ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ พลพรรค “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของกุนซือชาวดัตช์ เอริค เทน ฮาก เหมือนจะเจองานเบาเมื่อโคจรมาพบกับ ทัพ“ช้างกระทืบโลง”โคเวนทรี ซิตี้ ทีมดังจาก “เดอะ แชมเปียนชิพ ลีก” ที่โค่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
แมนยูฯ มีปัญหาในการจัดทัพหนักจากนักเตะหลักโดยเฉพาะแนวรับพากันเจ็บ ต้องส่ง กาเซมิโร่ กองกลางบราซิเลี่ยน มายืนเป็น เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวา คู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
เปิดฉากครึ่งแรก นาที 24 แมนฯยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ดิโอโก้ ดาโลต์ เปิดบอลให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ยิงเผาขน
แถมช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 แมนยูฯ ขยับหนีเป็น 2-0 จากจังหวะ บรูโน่ เฟอร์นานเดส เปิดลูกเตะมุมเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โหม่งเข้าไป จบครึ่งแรก แมนยูฯ 2 โคเวนทรี่ 0
ครึ่งหลัง นาที 59 บรูโน่ เฟอร์นานเดส ซัดมุมแคบให้ แมนยูฯ นำขาด 3-0 เรียกได้ว่าขาข้างหนึ่งแหย่เข้าไปรอชิงชนะเลิศอยู่แล้ว
แต่“โมเมนตั้ม”มาเปลี่ยนในนาที 71 เอลลิส ซิมส์ วอลเล่ย์สุดสวยให้ โคเวนทรี ไล่ตามเป็น 1-3
แถมนาที 79 คัลลัม โอแฮร์ ยิงให้ โคเวนทรี จี้หลัง แมนยูฯ เป็น 2-3 ทำเอาแฟนบอลโคเวนทรีส่งเสียงเชียร์ด้วยความสะใจ
แมนยูฯ ก็ยังใจดีสู้เสือ เกมทำท่าจะจบลงด้วยสกอร์นี้อยู่แล้ว กระทั่งช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 โคเวนทรี เฮกันลั่น เมื่อผู้ตัดสินเป่าให้ได้จุดโทษ จากจังหวะ อารอน ฟาน-บิสซาก้า ทำแฮนด์บอล และเป็น ฮาจี้ ไรท์ สังหารลูกโทษเข้าไป ต่อลมหายใจให้ โคเวนทรี ตีเสมออย่างเหลือเชื่อ จบ 90 นาที เสมอกัน 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป
ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 94 บรูโน่ เฟอร์นานเดส สับไกเต็มข้อบอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง
นาที 116 แฟนบอล โคเวนทรี เกือบจะได้เฮอีกระลอกเช่นกัน เอลลิส ซิมม์ส หลุดเข้าไปซัดแต่บอลพุ่งไปชนคานก่อนกระเด้งชนเสาออกไป
ช่วงทดเจ็บของช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 120+3 แมนยูฯ เกือบช็อก! จากจังหวะสวนกลับของโคเวนทรี เป็น วิคเตอร์ ทอร์ป ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ทัพ “เดอะ เร้ดส์”พอจะมี“เทพีแห่งโชค”เข้าข้าง ผู้ตัดสินเช็ก VAR ยืนยันเป็นจังหวะล้ำหน้า จบ 120 นาที “แฟนผี”โล่งอก สกอร์ยังเสมอ 3-3 ต้องดวลลูกจุดโทษตัดสิน
แมนยูฯ ได้ยิงก่อน ส่งคนแรก กาเซมีโร่ ที่ดูเก๋าเกมที่สุด แต่สีหน้าเหมือนกังวล สุดท้ายยิงพลาดติดเซฟ
แต่ อังเดร โอนาน่า ก็โชว์ซูเปอร์เซฟลูกโทษของ คัลลั่ม โอแฮร์ ได้บ้าง
ก่อนที่ เบนจามิน ชีฟ กัปตันทีมโคเวนทรี จะยิงจุดโทษข้ามคาน
สุดท้ายเป็น ราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ มาสังหารลูกจุดโทษประตูชัย พาพลพรรค “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟื้นจากหลุมโกงความตาย เอาชนะจุดโทษ โคเวนทรี ซิตี้ ไปสุดมัน 4-2 โดย แมนฯยูไนเต็ด ได้เข้าไปชิงถ้วย “เอฟเอ.คัพ อังกฤษ” เป็นครั้งที่ 22 ในประวัติศาสตร์สโมสร
นับเป็นการรีแมตช์ “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” คู่ชิง เอฟเอ.คัพ 2 ปีติดต่อกัน ครั้งสุดท้ายที่ แมนยูฯ ได้เข้าชิงชนะเลิศ 2 ปีติดต่อกัน ก็คือในปี 2004 และ 2005 และปีนี้ยังพอจะมีลุ้นการคว้าแชมป์ “เอฟเอ.คัพ”สมัยที่ 13 โดยจะไปรีแมตช์กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่สนาม เวมบลีย์ ในคืนวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 นี้
