ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/2024 เตรียมเดือดกันอีกครั้งคืนนี้ ทีม“สิงโตน้ำเงิน-คราม”เชลซี จะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของพลพรรค “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” หลังนัดแรก แมนฯยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก เป็นฝ่ายเฉือนชัยในบ้านไปหวุดหวิด 2-1
ศึกล้างตาคืนนี้ ทั้ง 2 ทีมยังคงมีปัญหาที่ตัวผู้เล่นหลักๆพากันเจ็บยาวพอๆกัน โดยฝั่งเจ้าบ้าน เชลซี ภายใต้การคุมทีมโดย เมาริซิโอ โปเชตติโน ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ ยังต้องพลาดการใช้งานกำลังสำคัญ ทั้ง โรเมโอ ลาเวีย, รีซ เจมส์, ลีไว โควลล์ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ที่บาดเจ็บ ยังดีที่เกมนี้จะได้ เบน ชิลล์เวลล์ แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ กลับมาเป็นหัวใจคุมแนวรับร่วมกับ อักเซล ดิซาซี, มาโล กุสโต และ เบอนัว บาดียาซีล ขณะที่แดนกลาง มีทั้ง มอยเซส ไกเซโดกับ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ คุมเกมร่วมกับ โคล พาลเมอร์ ที่ซัลโวไป 2 ประตูจากนัดล่าสุด ที่เปิดบ้านพิชิต เบิร์นลีย์ มา 2-1 ขณะที่ คอเนอร์ กัลป์ลาเกอร์ กับ นิโคไล มูดริก จะคอยปั้นเกมให้ศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง นิโคลัส แจ็คสัน
ขณะที่ฝั่งทีมเยือน แมนฯยูไนเต็ด ของกุนซือชาวดัตช์ เอริก เทน ฮาก ต้องกุมขมับหนักในเกมรับที่ลูกทีมพากันเจ็บเพียบ ทั้ง ลุค ชอว์ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย แถมล่าสุด วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ ก็มาเจ็บเพิ่มอีก ซึ่งต้องพักนานไปเป็นเดือน ขณะที่ ราฟาเอล วาราน หายเจ็บก็จริง แต่เจ้าตัวออกมายอมรับว่ามีปัญหากระทบกระเทือนที่ศีรษะ ไม่น่าจะพร้อมกับเกมนี้
บนข่าวร้าย ก็ยังพอจะมีข่าวดี เมื่อ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปราการหลังร่างเล็กที่มีข่าวเจ็บระหว่างฝึกซ้อม กลับมาเรียกความฟิตได้แล้ว พอมีลุ้นลงคุมแนวรับร่วมกับ แฮร์รี แมคไกวร์ โดยมี ดิโอโก ดาโลต์ กับ อารอน วาน-บิสซากา ประสานงานริมเส้น
เช่นเดียวกับรายของ “พี่เกษม” คาเซมิโร ที่หายเจ็บกลับมาเชื่อมเกมรับแดนกลางกับเจ้าหนู ค็อบบี ไมนู ขณะที่เกมรุกยังเน้นทั้ง บรูโน แฟร์นันเดส กัปตันทีม, อเลฮานโดร การ์นาโช และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ช่วยปั้นเกมให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ในตำแหน่งหน้าเป้า
ผลงาน 5 นัดหลังสุด ทั้งจากเกมลีกและ เอฟเอ.คัพ เชลซี ดูดีกว่าเล็กน้อย จากที่เก็บชัยไปถึง 4 เกมและเสมออีก 1 นัด ขณะที่ แมนยูฯ เก็บชัยไป 3 เสมอ 1 และแพ้ 1 นัด
ส่องเกมดูฟอร์มคู่ เชลซี-แมนยูฯ ช่วงนี้เหมือน “ผีเน่ากับโรงผุ” ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ยังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ต่อเนื่อง เปอร์เซ็นได้ไปเล่นถ้วยยุโรปคงริบหรี่เต็มที ขณะที่ฝั่ง “เดอะเร้ดส์” ก็“ผีเข้าผีออก”พอกัน ทั้ง โปเช็ตติโน และ เทน ฮาก ก็กำลังติดโผจ่อเป็น 2 กุนซือที่มีลุ้นโดนเด้งทั้งคู่ ดูทรงบอลและรูปเกมแล้ว คงเปิดเกมแลกกันตั้งแต่ต้น เชลซี อาจได้เปรียบด้วยเสียงเชียร์ในบ้าน ทั้ง 2 ทีมน่าจะหาจังหวะเข้าทำวูบวาบ แต่ผู้เล่นตัวรุกก็ขาดความมั่นใจในการจบสกอร์ ชนิดเล่นดี 1 นัด แย่อีก 2 นัด ปัญหาเกมรับก็สติสตังหลุดกันทั้งคู่ โอกาสลงเอยด้วยผลเสมอค่อนข้างสูง
เกจิลูกหนังอังกฤษส่วนใหญ่ฟันธงตามสภาพ : โอกาสที่คู่นี้จะจบแบบสมานฉันท์ 1-1 หรือโนสกอร์ 0-0 ก็มีสูง
โดยโปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ วันพฤหัสที่ 4 เมษายน 2567 เชลซี พบ แมนฯยูไนเต็ด จะลงเตะในเวลา 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทยอีกคู่ ลิเวอร์พูล จ่าฝูง จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คาดว่า พลพรรค”เดอะ ค็อปส์” น่าจะถล่มไปยับๆ 4-0 ถึง 5-0 เลยทีเดียว
