ทนายตั้ม ยื่นเอกสารคำให้การเพิ่ม 9 แผ่น ตั้งคำถาม “จะออกหมายเรียก ผบ.ตร.กี่โมง?”

วันที่ 11 เม.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมกับ น.ส.พิมพ์วิไล เดินทางมาที่ สน.เตาปูน เพื่อยื่นคำให้การเพิ่มเติม เป็นหนังสือลายลักษณ์อักษร หลังจากสอบคำให้การครั้งก่อน เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ไม่ละเอียด และไม่ครบถ้วน ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการทำงาน
นายษิทรา ระบุว่า ครั้งที่แล้วตนพาสายลับและ น.ส.พิมพ์วิไล มาให้การเพิ่มเติม แต่ทางพนักงานสอบสวนจดบันทึกข้อความไม่ครบถ้วน กลัวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดยรายละเอียดของคำให้การวันนี้เป็นของ น.ส.พิมพ์วิไล เริ่มตั้งแต่ โอนเงินเข้าบัญชีไหน กี่ครั้ง และหลักฐานว่าโอนไปยัง ตำรวจ สอท. และคนรอบตัวของ ผบ.ตร. อีกด้วย โดยได้นำเอกสารคำให้การมาเพิ่ม จำนวน 9 แผ่น จากเดิมที่พนักงานสอบสวนบันทึกไว้เพียง 1 หน้า ส่วนสายลับ ตนพามายื่นคำให้การเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 8.30 น. เป็นการบอกรายละเอียดตั้งแต่ต้น ว่าเข้าไปทำงานกับชุดเก็บส่วยได้อย่างไร รวบรวมส่วยส่งใคร และมีการจ่ายเงินในห้องหนึ่ง ที่ตึก สอท. หลังจากนั้นยังเห็นว่า ดาบยาว และรองฟาง เอาเงินไปที่ห้องหนึ่งที่มี ผบ.ตร. อยู่ แต่ไม่ทราบว่าภายในห้องทำอะไรกัน
นายษิทรา ยังระบุอีกว่า ในวันนี้ตนจะมาสอบถามกับทาง สน.เตาปูน ว่า “จะออกหมายเรียก ผบ.ตร. กี่โมง” และดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งตนยังรู้มาอีกว่าทาง สน.เตาปูน ไม่อยากทำคดีนี้ และพยายามโอนคดีไปที่อื่นเพื่อปัดความรับผิดชอบ ซึ่งถ้าเป็นการโอนคดีโดยมิชอบ ตนจะดำเนินการกับผู้โอนดคี ส่วนเวลา 11.00 น. ใน วันนี้ พรรคทางเลือกใหม่ จะเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำคดี สน.เตาปูน ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เจ้าหน้าที่จะได้มีกำลังใจ และทำคดีของตนให้แล้วเสร็จ
ส่วนที่ตนไปยื่นเอกสารให้กับคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ทางพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร มีมติเอกฉันท์ในการรับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าพบมีความผิดจริงจะมีการไล่ออก หรือปลดออกไว้ก่อน ในส่วนของมีบุคคลหนึ่งไปร้องเรียน พล.ต.ท.เรวัช ว่าทำงานไม่เป็นกลาง ตนรู้มาว่าบุคคลนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และอาจจะทำไปเพื่อดิสเครดิต พล.ต.ท.เรวัช หรือไม่อย่างไร
ส่วนวานนี้ ที่ตนพาพยานและนำหลักฐานไปยื่นให้กับทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ทางนายเศรษฐา ทวีสิน ตั้งขึ้น และได้เจอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วย ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร และคาดว่าคณะกรรมการฯ ชุดนี้จะดึงเรื่องออกไปก่อน ซึ่งคณะกรรมการฯ มีอำนาจในตรวจสอบเอกสาร ถ้าคิดว่าเอกสารตนยื่นไม่จริงก็ไปดึงเอกสารตัวจริงมา ถ้าดึงมาแล้วไม่ตรงกัน เท่ากับตนยื่นเอกสารเท็จ สามารถดำเนินคดีได้เลย
และวันนี้ในช่วงบ่ายนายษิทราได้ประสานกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางไว้แล้ว ว่าจะเข้าไปสอบถามความคืบหน้าของคดี ที่เคยร้องเรียนเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่าขณะนี้มีอะไรคืบหน้าไปแล้วบ้าง
ทั้งนี้ทนายตั้มยังระบุอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลส่วยลำดับที่ 19 และจะออกมาเปิดเผยหลังสงกรานต์
Home
Menu
Live