สาวอดีตผู้บริหารบริษัทระดับโลก ยืนยัน ไม่เคยถูกจับ ”เมาแล้วขับ“ มาก่อน ส่วนคลิปด่า ตำรวจ ”ชั้นต่ำ“ เป็นคำแรงสุดในชีวิต แต่มีที่มาที่ไป หลังจากนี้ขอให้การในชั้นศาล

กรณีอดีตผู้บริหารบริษัทชื่อดังระดับโลก ใช้เท้าถีบใบหน้าของ พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. หลังถูกจับกุมข้อหาเมาแล้ว ซึ่งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ภายในด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้าม มัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพ เมื่อกลางดึก ของวันที่ (23 เม.ย.) ที่ผ่านมา ก่อนถูกดำเนินคดี รวม 3 ข้อหา เมาแล้วขับ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และทำร้ายเจ้าพนักงานฯ โดยผู้ต้องหารับสารภาพเพียง 1 ข้อหา คือเมาแล้วขับ ส่วนอีก 2 ข้อหาอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 27 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มนธ์สินี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทให้บริการข้อมูลระดับโลก เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากกระแสข่าวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่า ตนเคยถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาลซึ่งอยู่ระหว่างการรอลงอาญา เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2565 เมื่อ 2 ปี ก่อน ยืนยันว่าไม่เคยโดนคดีเมาแล้วขับ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาให้ข้อมูล
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดี หรือจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นได้พูดคุยเจรจากับ พ.ต.ท.ดาราธร คู่กรณีจบไปแล้ว ส่วนในวันดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ ส่วนตัวขอไม่ตอบคำถามนี้แต่ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ส่วนข้อหาการทำร่างกายและประเด็นอื่น ๆ ขอให้การในชั้นศาลเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน แต่ยังคงรอการนัดแนะจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนแบบไหนก็ให้เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งในส่วนของตนเองนั้น ยังไม่เคยออกมาให้การกับใคร แต่ขอเปิดเผยข้อมูลในชั้นสอบสวน ที่ต่างฝ่ายจะต้องนำหลังกฐานมาพิสูจน์ตัวเอง แต่สิ่งที่ตนเองพิสูจน์ได้ในเวลาในนี้คือยังไม่เคยถูกดำเนินคดีใดในอดีต
จากคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปโดยมีคำพูดของตัวเองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ชั้นต่ำ” นั้น น.ส.มนธ์สินี กล่าวว่า คลิปที่ถูกเผยแพร่ไปเป็นแค่บางช่วงที่ถูกตัดต่อและเผยแพร่ออกไป ซึ่งคลิปจริง ๆ นั้นมีความยาวมากกว่านี้ โดยการเจรจาในวันเกิดเหตุไม่ได้มีแค่คำนี้คำเดียว และคำพูดดังกล่าวที่ได้พูดออกไปน่าจะเป็นคำพูดที่แรงที่สุดชีวิตของตนแล้ว เพราะปกติเป็นคนไม่ใช้คำหยาบ ยืนยันว่าไม่ได้ด่าใคร แต่ที่พูดออกไปเพราะมีที่มาที่ไป และยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้เมา
ส่วนเรื่องผลกระทบทางจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นส่วนตัวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกรอบแล้ว และไม่มีอะไรติดใจกัน
ด้าน พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ ว่า วันนี้ทางพนักสอบสวนไม่ได้นัดหมายให้เข้าพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการไปตรวจร่างกายเพื่อนำหลักฐานมายื่นให้กับพนักงานสอบสวน ในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย แต่ยืนยันว่าจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจากระบบ CRIME ทางผู้กระทำความผิดเคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ปี 2565 ซึ่งเป็นจุดตั้งด่านตรวจเดียวกันกับครั้งนี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Home
Menu
Live