วันที่ 7 พ.ค. กองบัญชาตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม นายสุเนตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และ นายดิศวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย เพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง ยาบ้า 5,020,000 เม็ด โดยจับได้ในพื้นที่ จ.ชุมพร
สืบเนื่องจาก ตำรวจทางหลวงได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ชุดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ให้ช่วยสกัดจับรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียนจังหวัดนครปฐม ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถที่ลักลอบขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่เขตภาคเหนือเพื่อนำส่งไปยังเขตพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงเฝ้าติดตามในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมาตำรวจชุดจับกุมได้พบรถบรรทุกน้ำมันตามที่ได้รับแจ้ง ที่บริเวณ ริมถนนเอเชีย ทล.41 กม.41 (ขาล่องใต้) ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงได้เรียกรถดังกล่าวให้จอดชิดขอบทางซ้าย ก่อนเข้าตรวจสอบพบว่ามี นายสุเนตร์ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ พร้อมทำการตรวจสอบภายในรถ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ภายในตัวถังน้ำมันที่บรรทุกมา ไม่สามารถค้นได้ เนื่องจากมีการบรรทุกกากน้ำตาลมาด้วยจำนวนมาก จึงได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าว ไปตรวจสอบโดยการเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ ที่ ด่าน บช.ปส.ท่าแซะ จ.ชุมพร อย่างละเอียด
ผลเอ็กซเรย์ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวมีการซุกซ่อนวัตถุซึ่งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมวางทับซ้อนกันอยู่จำนวนมากที่บริเวณตัวถังน้ำมันส่วนหน้า ซึ่งได้มีการดัดแปลงมาโดยเฉพาะสำหรับบรรจุสิ่งของเพื่อปิดบังอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลทั่วไปมองเห็นหากมองลอดลงไปจากปากถังน้ำมันทางด้านบน
เจ้าหน้าที่พบว่ามีก้อนสี่เหลี่ยมบรรจุอยุ่ในถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 50 ถุง เป็นยาบ้า ประมาณถุงละ 100,000 เม็ด รวมทั้งหมดประมาณ 5,020,000 เม็ด
ขณะที่ นายสุเนตร์ ผู้ขับรถคันดังกล่าว รับสารภาพว่าได้ลักลอบขนยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ได้รับค่าจ้างครั้งละ 300,000 บาท โดยเดินทางไปรับยาเสพติดมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อจะนำไปส่ง ยัง จ.นครศรีธรรมราช ในการเดินทางแต่ละครั้งจะมีรถนำทางและคอยบอกเส้นทางผ่านแอปพลิเคชันไลน์ส่วนตัว ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หรือตั้งด่านอยู่หรือไม่
ก่อนจะยินยอมให้ข้อมูลทะเบียนรถนำ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในระบบ พบว่ารถคันดังกล่าวกำลังวิ่งมุ่งหน้าลงใต้ ผ่านพื้นที่ อ.หลังสวน เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของคนขับรถนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงประสานข้อมูลระหว่างกัน
กระทั่งสามารถตรวจพบรถคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนเส้นรอง เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวจอด แต่เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม กลับเร่งเครื่องหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงเร่งไล่ติดตามไปจนทัน แต่พบว่ารถคันดังกล่าวได้ชะลอความเร็วของรถและปล่อยให้รถพุ่งตกลงข้างทาง ขณะที่คนขับได้เปิดประตู วิ่งหลบหนีทันที เจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถและรีบวิ่งติดตามไป ก่อนจะจับกุมตัวได้ 1 ราย ทราบชื่อ คือนายดิศวัฒน์ ขณะที่อีก 1 ราย ได้อาศัยความมืดและเส้นทางที่เป็นป่ารกทึบหลบหนีไปได้
เบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทราบ ก่อนส่งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมเตรียมขยายผลให้ครบทั้งขบวนการต่อไป
